26 มิ.ย. 2553

Britneys Spears


มาพูดถึงสาวคนนี้บ้างดีกว่Britneys Spears   บริทนีย์ สเปียร์ส หรือชื่อเต็มว่า Britney Jean Spears) เกิดเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ค.ศ. 1981 เป็นักร้องแนวป็อปชาวอเมริกัน เธอมีเพลงฮิตอย่างเพลง "...Baby One More Time,Oops!... I did it agains,I'm a slave 4 you และ toxic เป็นต้น
ประวัติ ชีวิตช่วงแรก  บริทนีย์ เกิดในแม็คคอมบ์,มิสซิสซิปปี้ โตที่เซาเทอร์น แบพติสท์ ในเคนท์วูด รัฐหลุยเซียน่า เมื่ออายุ 8 ขวบ ได้เดินทางไปแอตแลนต้า เพื่อคัดตัวเข้าร่วม มิคกี้ เม้าส์ คลับ ซึ่งก็เข้าถึงรอบสุดท้าย แต่กลับถูกคัดออก เนื่องจากอายุน้อยเกินไป อย่างไรก็ดี โปรดิวเซอร์ แนะนำให้มารดา พาเธอไปนิวยอร์ก ให้กับเอเจ่นต์ 3 ปีต่อมา บริทนีย์อยู่ที่ศูนย์เต้นรำนอกบรอดเวย์ กับที่โรงเรียนการแสดงระดับอาชีพในนิวยอร์ก เธอเริ่มมีงานโฆษณาหลายเรื่อง และยังได้แสดงละครบรอดเวย์เรื่อง Ruthless บริทนีย์กลับเข้าหา มิคกี้ เม้าส์ คลับ อีกครั้ง คราวนี้มิคกี้ เม้าส์ คลับ รับเธอ หลังจากรายการยุบตัวไป เธอได้เริ่มทำเดโมทเทป ตอนปี 1997 เธอได้ส่งให้ Jive Records เธอได้เซ็นสัญญา ต่อมาก็ได้เปิดคอนเสิร์ตให้ 'N Sync บริทนีย์ ได้ร่วมงานกับ แม็กซ์ มาร์ติน โปรดิวเซอร์จากสวีเดนที่สร้างชื่อให้กับแบ็คสตรีท บอยส์‎และ เอริค ฟอสเตอร์ ไวต์ ที่เคยร่วมงานกับ วิทนีย์ ฮูสตัน มาแล้ว เพลงแรกที่เริ่มบันทึกเสียงกันคือ Baby One More Time

1998–2000: การประสบความสำเร็จในช่วงแรกภาพจากมิวสิกวิดีโอเพลง Baby One More Timeในเดือนพฤศจิกายน 1998 บริทนีย์ นำซิงเกิ้ลแรก Baby One More Time ขึ้นถึงอันดับ 1 ในอเมริกา สัปดาห์เดียวกับที่อัลบั้มแรกของเธอติดอันดับที่ 1 ซึ่งซิงเกิ้ลนี้เป้นซิงเกิ้ลที่ทำให้เธอ กลายเป้นที่รู้จักไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยเราด้วยย หลายคนอาจจะคิดว่าเธอไม่เคยมาประเทศไทย แต่หารู้ไม่ เมื่อประมาณ 8 ปีก่อนในอัลบั้มแรกของเธอ เธอมาโปรโมตอัลบั้มที่ประเทศไทยของเราด้วย
ในอัลบั้มชุดนี้เธอถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่ถึง 9 รางวัล ซึ่งมากเป็นประวัติศาสตร์นักร้องหน้าใหม่ นอกจากนั้นยังกวาดรางวัล Best Female Artist, Best Breakthrough Act, Best Pop Act และ Best Song จากงานเอ็มทีวี ยุโรป มิวสิก อวอร์ดสที่ดับลิน เธอก็กลับเข้าสตูดิโอในช่วงฤดูร้อนปี 1999 เพื่อบันทึกเสียงอัลบั้มชุดใหม่
ซิงเกิ้ลแรกจากอัลบั้มชุดที่ 2 "Oops!... I Did It Again" ติดท็อบเท็นในอเมริกา ส่วนตัวอัลบั้มขายได้อันดับ 1 สัปดาห์แรกสัปดาห์เดียวขายได้ถึง 1.3 ล้านหน่วย ต่อมา "stronger" สามารถบอกความแตกต่างระหว่างเพลง baby one more timeได้อย่างลงตัว

บริทนีย์ สเปียร์ส ปี 2003พฤศจิกายน 2003 เธอได้ออกอัลบั้มชุดที่ 4 "In the Zone" แนวเพลงมีการเพิ่ม synthpop มากขึ้น ยังได้ศิลปินชื่อดังอย่าง Moby และ R. Kelly มาช่วยแต่งเพลงด้วย In the Zone ขึ้นอันดับ 1 ในอเมริกาในสัปดาห์แรกด้วยยอดขายมากกว่า 909,000 แผ่น ทำให้เธอเป็นศิลปินหญิงคนแรกที่มีการเปิดตัวเข้าชาร์ทที่อันดับ1 ถึง 4 อัลบั้ม อัลบั้มชุดนี้เธอได้ทำงานร่วมกับมาดอนน่าในเพลง "Me Against the Music" ซึ่งดังถล่มทลาย สามารถติดอยู่บนชาร์ต TRL เป็นเวลากว่า 9 สัปดาห์นับว่าเป็นการทุบสถิติต่างๆ อย่างสิ้นเชิง ส่วนซิงเกิ้ลที่ 2 "Toxic" เป็นเพลงที่ลบคำสบประมาทของหลายๆคนว่าอัลบั้มนี้จะไม่ประสบความสำเร็จ แต่เพลงนี้เองสามารถทำให้ทุกๆคนได้รับรู้อีกครั้งกับการกลับมา ซิงเกิ้ลที่ 3 "Everytime" ซิงเกิ้ลนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับการขอโทษแฟนหนุ่มคนเก่าหรือ จัสติน ทิมเบอร์เลคนั่นเอง แม้เพลงนี้จะไปได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักในอเมริกา แต่ในเกาะอังกฤษกลับขึ้นอันดับ 1 อย่างสง่างาม โดยยอดขายรวมของอัลบั้มนี้ขายได้กว่า 15 ล้านก๊อปปี้ ซึ่งนับว่าเยอะมากในยุคแห่งการดาวน์โหลดอย่างนี้และในปีเดียวกันนั้นเธอก็มีคอนเสิร์ตโปรโมตอัลบั้ม In the zone ชื่อว่า the onyx hotel tour เป็นทัวร์ประวัติศาสตร์เลยก็ว่าได้เพราะ คอนเสิร์ตนี้ เปิดจองบัตรเพียง 26 นาทีบัตรก็ขาย หมดซึ่งหลายคนก็ไม่เชื่อเหมือนกัน แต่ที่น่าเสียดายมากที่สุดคือเธอจะมาเล่นคอนเสิร์ตนี้ที่ประเทศไทยแต่เพราะ ขาหักจึงทำให้เธอต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด และทัวร์นี้ของเธอ ก็ได้ทำลายสถิติคอนเสิร์ต britney spears live in las vegas "Dream within a dream tour" ของตัวเอง ทำรายได้มากกว่าเดิม 113 ล้านเหรียญสหรัฐ

2004–ปัจจุบัน การแต่งงาน ลูก การหย่าร้าง และปัญหาส่วนตัว
3 มกราคม 2004 เธอได้แต่งงานกับเพื่อนวัยเด็ก เจสัน อัลเลน อเล็กซานเดอร์ ในลาสเวกัส แต่ชีวิตการแต่งงานของเธอมีแค่ 55 ชั่วโมง กรกฎาคม 2004 เธอหมั้นกับ แดนเซอร์เควิน เฟเดอร์ไลน์ หลังจากรู้จักกัน 3 เดือน และได้แต่งงานกันในวันที่ 6 ตุลาคม 2004
บริทนีย์ออกผลงานรวมฮิต Greatest Hits: My Prerogative อัลบั้มอันดับ 1 ในอเมริกาด้วยยอด ขาย 1,050,000 แผ่น มีเพลงอย่าง "My Prerogative" และ "Do Somethin'" และนี่เป็นอัลบั้มสุดท้ายที่ตอกย้ำความเป็นเจ้าหญิงเพลงป็อปอย่างแท้จริง ด้วยยอดขายกว่า 35 ล้านแผ่นทั่วโลก ซึ่งนับว่าเป็นอัลบั้มที่ขายได้ดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้ ที่เป็น greatest hits
เมษายน 2005 เธอประกาศว่าเธอท้องลูกคนแรก และคลอดลูกชายคนแรก ฌอน เพรสตัน เฟเดอร์ไลน์ เมื่อ 14 กันยายน 2005 ที่ ซานตาโมนิกา 12 กันยายน 2006 เธอได้คลอดลูกชายคนที่ 2 เจย์เดน เจมส์ เฟเดอร์ไลน์ ที่ลอสแองเจลิส แคลิฟอร์เนีย ในที่สุดเธอได้หย่าร้างกับเควิน เฟเดอร์ไลน์ ในเดือนพฤศจิกายน 2006 พร้อมกับเธอรับเป็นผู้เลี้ยงดูบุตรทั้ง 2 คน
เดือน กุมภาพันธ์ 2007 บริทนีย์สร้างข่าวช็อกแฟนเพลงมากมายโดยเริ่มจากการมีรายงานว่าเธอเข้าบำบัด ที่ Crossroads Centre ในหมู่เกาะแคริบเบียน และต่อมาเธอเข้าร้านตัดผมในทาร์ซานา แคลิฟอร์เนียเพื่อโกนหัว ก่อนจะไปสักลายใหม่ [1]
อาชีพและรายได้
อาชีพหลักของบริทนีย์ที่เป็นที่ รู้จักคืออาชีพนักร้อง ทำเงินได้ถึง 26.5 ล้านเหรียญ สัญญาของเธอที่ได้จากค่าย Zomba Records จากผลงานอัลบั้มชิ้นล่าสุดอย่าง Into the Zone นั้นมากถึง 6.72 ล้านเหรียญ ซึ่งรายได้สุทธิจากการทัวร์อัลบั้มดังกล่าวมียอดถึง 20 ล้านเหรียญทีเดียว ค่าลิขสิทธิ์ทางดนตรีที่เธอได้รับจากมิวสิกวีดีโอและการโฆษณาทำให้เธอได้รับ เงิน 6 หมื่นเหรียญต่อปี เธอยังมีทรัพย์สินฝากไว้ธนาคารดอกเบี้ยสูง 6 แห่งถึง 33.25 ล้านเหรียญ
สัญญาที่ได้ได้รับจากสินค้าต่างๆ ก็มีไม่น้อย ทั้งที่เคยทำลายสถิติสูงสุดมาแล้วจากเป๊ปซี่ ที่ทำเอาไว้เมื่อปี 2001 ด้วยรายได้ 9.27 ล้านเหรียญ รวมทั้งจากสินค้าอย่าง ซัมซุง, โตโยต้า, Kirin, Proactiv, Skechers และ Nabisco ที่รวมได้มูลค่ากว่า 21.6 ล้านเหรียญ 

การร่วมงานกับเครื่องสำอางดังยี่ห้อ Elizabeth Arden เมื่อปี 2004 ที่เธอได้ส่ง Curious น้ำหอมขายดี รวมทั้งผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเครื่องสำอางต่างๆ วางขาย ทำให้เธอได้ค่าลิขสิทธิ์ครั้งนั้นไป 16.7 ล้านเหรียญ ซึ่งรับประกันได้ว่าเธอจะได้รายได้ต่อปีตั้งแต่ 1.96 ถึง 2.94 ล้านเหรียญ จนกว่าสัญญาจะสิ้นสุดลงในปี 2009     บริทนีย์ มีบ้านของตัวเอง 4 หลัง ทั้งในมาลิบูและออร์แลนโด รวมทั้งที่ดินเป็นป่ากว้างใหญ่ในหลุยเซียนา ซึ่งรวมมูลค่าทั้งหมด 22.6 ล้านเหรียญ    เธอยังมีรายได้อีก 6.5 ล้านเหรียญ จากการปรากฏตัวทางรายการโทรทัศน์ รวมกับสัญญาที่ได้จากนิตยสารและภาพยนตร์ รวมทั้งที่ได้ 3 ล้านเหรียญจากการแสดงใน Crossroads หนังเรื่องแรกและเรื่องเดียวของเธอ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี     ใครแฟนคลับหนูบริท ก็ http://main.britneythailand.net/




More pretty pictures of Britney Spears

   




Britneys Spears Midnight Fantasy EDP

เติมค่ำคืนนี้ให้เปรี้ยวซ่า ด้วยกลิ่นหอมหวานสดใส ผลไม้เปรี้ยวๆ สดชื่น แนวเบอร์รี่  หลายๆ คนดมแล้วคิดถึงซูกัสสีม่วง กลิ่นแบล๊คเคอเรนท์ให้ความรู้สึก ร่าเริง ขี้เล่น ติดทน

"Midnight Fantasy is the fourth and latest fragrance release from Britney Spears, and is meant as the sexy, late night ("a mysterious realm of temptation and intrigue") follow-up to 2005's Fantasy. It was created by perfumer Caroline Sabas, and the notes include black cherries, framboise, plum, orchid, freesia, iris, musk, amber and vanilla. The bottle (see it here) is the same as Fantasy's, done up in dark blue.



  The heart notes add an entirely anonymous blur of sheer florals, and the base is velvety but surprisingly pale and clean: I waited for something va-va-voom, but I waited in vain.The original Fantasy did not strike me as a particularly sexy fragrance, but Midnight Fantasy is even less so — once the burst of fruit settles, it is comparatively bland and lacking in personality. It is is easily my least favorite of the line so far. It didn't even make me laugh (thank you, Paris Hilton Heiress). "

ภาพ AD.ของเธอ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น